
10 Feb การบำรุงรักษาเครื่องฉีดพลาสติก
เครื่องฉีดพลาสติกไม่ว่ายี่ห้อใดต่างก็ต้องการการบำรุงรักษา เหมือนกับรถยนต์ที่ยิ่งใช้งานมาก ใช้งานหนัก ก็ยิ่งสึกหรอเร็ว หากละเลยการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเครื่องฉีดของคุณจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จากเดิมที่ควรมีอายุการใช้งาน 5-10 ปี ก็อาจเริ่มมีอะไหล่และอุปกรณ์เสียหายตั้งแต่เข้าปีที่ 3
ความหมายของการซ่อมและบำรุงรักษา
- การซ่อม คือ การแก้ไขให้สามารถใช้ต่อไปได้
- การบำรุง คือ การส่งเสริมปรับแต่งให้ดีขึ้น
- การรักษา คือ การดูแลให้อยู่ในสภาพเดิม
ประเภทของการซ่อมบำรุง
1. ซ่อมเมื่อเสีย ( Corrective Maintenance ) ชื่อย่อ CM
2. ซ่อมก่อนเสีย ( Preventive Maintenance ) ชื่อย่อ PM
วัตถุประสงค์ในการซ่อมและบำรุงรักษา
- เพื่อแก้ไขจุดบกพร่องให้สามารถใช้งานได้เหมือนเดิม
- เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องฉีดพลาสติก
- เพื่อให้เครื่องฉีดพลาสติกมีความพร้อมในการใช้งานอยู่เสมอ
- เพื่อป้องกันและชะลอการเกิดปัญหาที่จะตามมา
- เพื่อให้เครื่องฉีดพลาสติกมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
การตรวจเช็กและบำรุงรักษา
- การตรวจเช็กประจำวัน
- การตรวจเช็กประจำสัปดาห์
- การตรวจเช็กประจำเดือน
- การตรวจเช็กประจำ 3 เดือน
- การตรวจเช็กประจำวัน 6 เดือน
- การตรวจเช็กประจำปี
ตัวอย่าง ใบตรวจเช็กประจำวัน ( DPM )
ใบตรวจเช็ก PM
การตรวจเช็กและบำรุงรักษาเครื่องฉีดพลาสติกเบื้องต้น
ระบบหล่อลื่น Lubrication
- หมั่นตรวจเช็กระบบหล่อลื่นตามจุดต่างๆตามภาพว่ามีสารหล่อลื่นเพียงพอหรือไม่
2. หมั่นตรวจสอบกรองน้ำมันไฮดรอลิกว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่
กรองน้ำมัน Oli Tank
3. Oil Cooler ควรล้างทุกๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันน้ำมันร้อนเกินมาตรฐาน ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาตามมา เช่น เครื่องทำงานเสียงดัง อุปกรณ์ไฮดรอลิกเสียหาย น้ำมันรั่วซึม เป็นต้น
ระบบระบายความร้อนเครื่องฉีดพลาสติก
- พัดลมระบายความร้อนของเครื่องฉีด ควรแกะออกมาปัดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบระบายความร้อนทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
2. ตรวจเช็กพัดลม Motor และพัดลมตู้ Drive อย่างสม่ำเสมอ หากตัวใดตัวหนึ่งเสีย ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
ระบบไฟฟ้า (Electronic)
- ตรวจเช็ก Power Supply ว่าทำงานปกติหรือไม่ ปัญหาที่พบบ่อยหาก Power Supply มีปัญหาคือระบบรวน เนื่องจากไฟไปเลี้ยงชุดควบคุมไม่พอ
2. ตรวจเช็กระบบ Main Power ว่ามีอุปกรณ์ใดเสียหรือไม่ หากมีควรเปลี่ยนใหม่ทันที